วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ปาย แม่ฮ่องสอน
ปาย เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ ปายได้ดึงดูดนักเดินทางรวมทั้งตัวผมเองให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้ ครั้นเมื่อมาถึงที่นี่ครั้งแรก ทำให้ผมย้อนนึกถึงบรรยากาศคล้ายๆ วังเวียงที่ลาวยังไงอย่างนั้นเลยทีเดียว เดิมที ปาย จะเป็นเพียงทางผ่านของผม ซึ่งเลือกที่จะเดินทางโดยรถยนต์ จากเชียงใหม่ สู่แม่ฮ่องสอน (จริงๆ แล้ว ก็จากกรุงเทพฯ เลยครับ) แต่หลังจากที่ได้อ่านหนังสือท่องเที่ยวอยู่หลายเล่ม...อดไม่ได้ครับที่จะต้องแวะพัก 1 คืน (ที่พักปาย) ตั้งใจจะสำรวจก่อนผ่านไปเฉยๆ ในทริปครั้งแรกของผม ซึ่งก็ผ่านมาแปดปีมาแล้ว
ปาย ในรอบสองของผมนี้ คือ จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่ทางผ่านอีกต่อไป ตั้งใจจะสำรวจให้ทั่วๆ สักที รอบนี้จึงมีรูปสถานที่ท่องเที่ยวมาฝากกันเยอะทีเดียว.... รอบสองนี้เมื่อปลายปี 48 นี้เอง อยากชมรูป คลิก รูปปาย นี้เลย
และแล้ว ปลาย พ.ย. ปี 50 ล่าสุดนี้ ปายรอบที่ 3 ผมประมวลภาพ ตัวเมืองปายแบบระเอียด ตามซอยตามมุม บวกรีสอร์ทใหม่ๆ ถึงใหม่ที่สุด อีกเพียบ แถมข้อมูล บ้านวัดจันทร์ อีก อ้อ...คงอยากรู้แล้วซิว่า บ้านวัดจันทร์ คืออะไร คลิกนี้เลย บ้านวัดจันทร์ เออ...ลืมบอกไป 5 รูปแรกในหน้าเว็บนี้...ผมถ่ายที่ บ้านวัดจันทร์ครับ
ปายได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งยุโรป ญี่ปุ่น มานานแล้ว สำหรับคนไทยแล้ว เพิ่งบูม 2 -3 ปีที่ผ่านมา สำหรับปีใหม่ปีนี้ ที่ปายนั่งท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ที่พักหลายที่เต็มไปตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม ฝนยังไม่หมดดีเลย ก็เต็มกันซะแล้ว ช่วงวันหยุดต่อเนื่องยาวๆ เดือนธันวา โดยเฉพาะปลายปี อันนี้ไม่แนะนำให้ไปครับ นักท่องเที่ยวเยอะมากเกินไป ต้องไปแย่งเข้าคิวกันทานอาหาร แถมยังราคาที่พักก็สูงกว่าปกติเป็นพิเศษ คงไม่สนุกแน่ ยังมีอะไรอีกเยอะ....อ่าน ถามตอบเรื่องปาย ได้ที่นี่
พักผ่อนอย่างจริงจัง สัก 2- 3 วัน คงจะดีไม่น้อย จิบกาแฟร้อนๆ อ่านหนังสือดีๆสักเล่ม ริมระเบียงรีสอร์ท บางทีจะติดริมน้ำ หรือริมทุ่งคงจะดีไม่น้อย นั่งทอดสายตาไปไกลๆ ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า คุณอาจได้ไอเดีย ดีๆ กลับมาเริ่มต้นปีใหม่อย่างที่ไม่เคยมาก่อน
สถานที่เที่ยวแห่งนึงที่ไม่ควรพลาดหากผ่านมาจากเชียงใหม่(ถนนสายแม่มาลัย) คือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง (Huai Nam Dang National Park) รอบที่ 3 นี้ผมเองก็พักที่อุทยานฯที่นี่ 1 คืน ก่อนไปปาย อีกแห่งที่ผมเพิ่งไปเก็บข้อมูลมาคือ โครงการเกษตรที่ราบสูงบ้านวัดจันทร์ แต่เข้าไปลำบากหน่อย 38 กม.ได้ ทางคดเคี้ยวขึ้นเขา น้องๆ กับทางที่มาเชียงใหม่-ปาย เลยทีเดียว จุดเด่นคือ บรรยากาศยามเย็นและเช้า อากาศสดชื่นบนที่ราบสูง ป่าสนธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ วิถีชีวิตชาวเขาปากะญอ โครงการเกษตรต่างๆ แต่ที่บ้านวัดจันทร์นี้ไม่เหมาะกับคนที่เบื่อการนั่งรถ และชอบความสะดวกสบาย
แหล่งท่องเที่ยว ปาย คลิกได้เลย....หากมีเวลาจำกัด ผมขอแนะนำเพิ่มอีกเล็กน้อย โป่งน้ำร้อนท่าปาย วัดน้ำฮู น้ำตกหมอแปง พระธาตุแม่เย็น สะพานประวัติศาสตร์ วัดกลาง ถนนคนเดิน (มีแต่ตอนเย็น 5โมง-3 ทุ่ม อันนี้พลาดไม่ได้) สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไม่อยากยุ่งยากสามารถเดินทางไปกับ บริษัททัวร์ต่างๆ ได้ SilverStone Tour มีทัวร์ไปปายทุกวัน ลองดูรายละเอียดปาย หรือโทร: 02-7047067 โทรสาร: 02-7373202 (อ้างชื่อไทยทัวร์ จะได้ราคาพิเศษ) หรือดู ทัวร์ปาย
เรารอคุณอยู่ เน้อ...
นอกจากเที่ยวแล้ว เขามาทำอะไรกันที่ปายหากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่องแก่งลำน้ำปายน่าจะเป็นกิจกรรมต้นๆ รองลงไปก้อ...ขี่ช้าง เดินป่า และปั่นจักรยานชมเมืองปาย แช่น้ำแร่ท่ามกลางขุนเขาแห่งธรรมชาติ แต่สำหรับผม ขอเลือกเที่ยวและถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ดีกว่า
ปั่นจักรยานชมเมืองปายเส้นทางปั่นจักรยานสาย เชียงใหม่-แม่มาลัย-ปาย เป็นเส้นทางที่ท้าทายนักปั่นเสือภูเขา เส้นทางคดเคี้ยว เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขา สองข้างทางรายล้อมไปด้วยพืชพรรณไม้และป่าเขาลำเนาไพร เขตติดต่อระหว่าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แวะชื่นชมทิวทัศน์อัน สวยงามของทะเลหมอกที่ ห้วยน้ำดัง จักรยาน จะมาหาเช่าใน อำเภอปาย ก็ได้ ซึ่งก็มีร้านจักรยานให้เช่าแก่นักท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน
นั่งช้าง ชมไพรใน อ.ปายกิจกรรมที่บริการให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินในการชมธรรมชาติ อีกอย่างหนึ่งคือ นั่งช้าง ท่านสามารถติดต่อบริการนั่งช้างได้ที่ ปางช้างบ้านท่าปาย ใกล้กับท่าปายสปาแค้มปิ้งรีสอร์ท เป็นเส้นทางเดียวกับการไปน้ำพุร้อนบ้านท่าปายค่าบริการนั่งช้าง ชั่วโมงละ 500 บาท นั่งได้สองคนต่อช้าง 1 เชือก
ล่องแก่ง แม่น้ำปายแม่น้ำปายเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีต้นกำเนิดมาจากทิวเขาถนนธงชัย และแดนลาว แล้วไหลผ่าน 3 อำเภอในจังหวัดเดียว คือ อ.ปาย-อ.ปางมะผ้า-อ.เมือง ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน แต่ละช่วงมีทิวทัศน์ที่สวยงามการล่องแก่งแม่น้ำปาย รวมระยะทางประมาณ 50 กิดลเมตร ความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจจะถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมาก และระดับน้ำรุนแรง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและความสนุกสนานตลอดสายน้ำ เช่น เล่นน้ำตกซู่ซ่า ผจญภัยแช่ตัวในบ่อดคลน กระโดดหน้าผาสูง ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่ง คือ เดือนมิถุนายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี การล่องแก่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น
ล่องแพยางอำเภอปาย นับว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ริเริ่มกิจกรรมนี้ การล่องแพยางไปตามสายน้ำ แม่น้ำปาย เป็นแม่น้ำที่มีเกาะแก่งมากที่สุดและสวยงาม มาก เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองนี้มักจะไม่พลาด การล่องแพท่านสามารถเลือกได้ ในโปรแกรม 1 วัน หรือ 2 วัน โดยส่วนใหญ่โปรแกรมการล่องแก่งจะไปเริ่มที่ลำน้ำของ ในเขต อ.ปางมะผ้า และไปสิ้นสุดที่ลำน้ำปายในพื้นที่ของที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บ้านปางหมู อ.เมือง แม่ฮ่องสอน ในระหว่างการล่องแก่งท่านจะได้พบกับความสนุกตื่นเต้น การตั้งแค้มป์ในป่า การแช่โคลนจากบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ เพื่อผิวพรรณเปล่งปลั่ง กิจกรรมการล่องแก่ง จะมีในช่วงเดือน ต้นเดือนมิถุนายนและไปสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ของปีต่อไป ในช่วงถดูแล้งน้ำน้อยจะไม่สามารถล่องแก่งได้ ก่อนการล่องแพท่านจะได้รับการฝึกการพายเรือ และการแนะนำ วิธีการปฏิบัติในการพายแพยางอย่างละเอียดจากผู้คัดท้ายเรือ หรือที่เรียกว่า กัปตัน การล่องแพควรจะนัดแนะกับเพื่อนเพราะแพยางลำหนึ่งต้องมีผู้ร่วมพายอย่างน้อย 4 คน
เขียนโดย TunGMayZ
ปาย ในรอบสองของผมนี้ คือ จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่ทางผ่านอีกต่อไป ตั้งใจจะสำรวจให้ทั่วๆ สักที รอบนี้จึงมีรูปสถานที่ท่องเที่ยวมาฝากกันเยอะทีเดียว.... รอบสองนี้เมื่อปลายปี 48 นี้เอง อยากชมรูป คลิก รูปปาย นี้เลย
และแล้ว ปลาย พ.ย. ปี 50 ล่าสุดนี้ ปายรอบที่ 3 ผมประมวลภาพ ตัวเมืองปายแบบระเอียด ตามซอยตามมุม บวกรีสอร์ทใหม่ๆ ถึงใหม่ที่สุด อีกเพียบ แถมข้อมูล บ้านวัดจันทร์ อีก อ้อ...คงอยากรู้แล้วซิว่า บ้านวัดจันทร์ คืออะไร คลิกนี้เลย บ้านวัดจันทร์ เออ...ลืมบอกไป 5 รูปแรกในหน้าเว็บนี้...ผมถ่ายที่ บ้านวัดจันทร์ครับ
ปายได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งยุโรป ญี่ปุ่น มานานแล้ว สำหรับคนไทยแล้ว เพิ่งบูม 2 -3 ปีที่ผ่านมา สำหรับปีใหม่ปีนี้ ที่ปายนั่งท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ที่พักหลายที่เต็มไปตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม ฝนยังไม่หมดดีเลย ก็เต็มกันซะแล้ว ช่วงวันหยุดต่อเนื่องยาวๆ เดือนธันวา โดยเฉพาะปลายปี อันนี้ไม่แนะนำให้ไปครับ นักท่องเที่ยวเยอะมากเกินไป ต้องไปแย่งเข้าคิวกันทานอาหาร แถมยังราคาที่พักก็สูงกว่าปกติเป็นพิเศษ คงไม่สนุกแน่ ยังมีอะไรอีกเยอะ....อ่าน ถามตอบเรื่องปาย ได้ที่นี่
พักผ่อนอย่างจริงจัง สัก 2- 3 วัน คงจะดีไม่น้อย จิบกาแฟร้อนๆ อ่านหนังสือดีๆสักเล่ม ริมระเบียงรีสอร์ท บางทีจะติดริมน้ำ หรือริมทุ่งคงจะดีไม่น้อย นั่งทอดสายตาไปไกลๆ ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า คุณอาจได้ไอเดีย ดีๆ กลับมาเริ่มต้นปีใหม่อย่างที่ไม่เคยมาก่อน
สถานที่เที่ยวแห่งนึงที่ไม่ควรพลาดหากผ่านมาจากเชียงใหม่(ถนนสายแม่มาลัย) คือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง (Huai Nam Dang National Park) รอบที่ 3 นี้ผมเองก็พักที่อุทยานฯที่นี่ 1 คืน ก่อนไปปาย อีกแห่งที่ผมเพิ่งไปเก็บข้อมูลมาคือ โครงการเกษตรที่ราบสูงบ้านวัดจันทร์ แต่เข้าไปลำบากหน่อย 38 กม.ได้ ทางคดเคี้ยวขึ้นเขา น้องๆ กับทางที่มาเชียงใหม่-ปาย เลยทีเดียว จุดเด่นคือ บรรยากาศยามเย็นและเช้า อากาศสดชื่นบนที่ราบสูง ป่าสนธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ วิถีชีวิตชาวเขาปากะญอ โครงการเกษตรต่างๆ แต่ที่บ้านวัดจันทร์นี้ไม่เหมาะกับคนที่เบื่อการนั่งรถ และชอบความสะดวกสบาย
แหล่งท่องเที่ยว ปาย คลิกได้เลย....หากมีเวลาจำกัด ผมขอแนะนำเพิ่มอีกเล็กน้อย โป่งน้ำร้อนท่าปาย วัดน้ำฮู น้ำตกหมอแปง พระธาตุแม่เย็น สะพานประวัติศาสตร์ วัดกลาง ถนนคนเดิน (มีแต่ตอนเย็น 5โมง-3 ทุ่ม อันนี้พลาดไม่ได้) สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไม่อยากยุ่งยากสามารถเดินทางไปกับ บริษัททัวร์ต่างๆ ได้ SilverStone Tour มีทัวร์ไปปายทุกวัน ลองดูรายละเอียดปาย หรือโทร: 02-7047067 โทรสาร: 02-7373202 (อ้างชื่อไทยทัวร์ จะได้ราคาพิเศษ) หรือดู ทัวร์ปาย
เรารอคุณอยู่ เน้อ...
นอกจากเที่ยวแล้ว เขามาทำอะไรกันที่ปายหากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่องแก่งลำน้ำปายน่าจะเป็นกิจกรรมต้นๆ รองลงไปก้อ...ขี่ช้าง เดินป่า และปั่นจักรยานชมเมืองปาย แช่น้ำแร่ท่ามกลางขุนเขาแห่งธรรมชาติ แต่สำหรับผม ขอเลือกเที่ยวและถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ดีกว่า
ปั่นจักรยานชมเมืองปายเส้นทางปั่นจักรยานสาย เชียงใหม่-แม่มาลัย-ปาย เป็นเส้นทางที่ท้าทายนักปั่นเสือภูเขา เส้นทางคดเคี้ยว เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขา สองข้างทางรายล้อมไปด้วยพืชพรรณไม้และป่าเขาลำเนาไพร เขตติดต่อระหว่าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แวะชื่นชมทิวทัศน์อัน สวยงามของทะเลหมอกที่ ห้วยน้ำดัง จักรยาน จะมาหาเช่าใน อำเภอปาย ก็ได้ ซึ่งก็มีร้านจักรยานให้เช่าแก่นักท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน
นั่งช้าง ชมไพรใน อ.ปายกิจกรรมที่บริการให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินในการชมธรรมชาติ อีกอย่างหนึ่งคือ นั่งช้าง ท่านสามารถติดต่อบริการนั่งช้างได้ที่ ปางช้างบ้านท่าปาย ใกล้กับท่าปายสปาแค้มปิ้งรีสอร์ท เป็นเส้นทางเดียวกับการไปน้ำพุร้อนบ้านท่าปายค่าบริการนั่งช้าง ชั่วโมงละ 500 บาท นั่งได้สองคนต่อช้าง 1 เชือก
ล่องแก่ง แม่น้ำปายแม่น้ำปายเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีต้นกำเนิดมาจากทิวเขาถนนธงชัย และแดนลาว แล้วไหลผ่าน 3 อำเภอในจังหวัดเดียว คือ อ.ปาย-อ.ปางมะผ้า-อ.เมือง ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน แต่ละช่วงมีทิวทัศน์ที่สวยงามการล่องแก่งแม่น้ำปาย รวมระยะทางประมาณ 50 กิดลเมตร ความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจจะถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมาก และระดับน้ำรุนแรง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและความสนุกสนานตลอดสายน้ำ เช่น เล่นน้ำตกซู่ซ่า ผจญภัยแช่ตัวในบ่อดคลน กระโดดหน้าผาสูง ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่ง คือ เดือนมิถุนายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี การล่องแก่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น
ล่องแพยางอำเภอปาย นับว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ริเริ่มกิจกรรมนี้ การล่องแพยางไปตามสายน้ำ แม่น้ำปาย เป็นแม่น้ำที่มีเกาะแก่งมากที่สุดและสวยงาม มาก เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองนี้มักจะไม่พลาด การล่องแพท่านสามารถเลือกได้ ในโปรแกรม 1 วัน หรือ 2 วัน โดยส่วนใหญ่โปรแกรมการล่องแก่งจะไปเริ่มที่ลำน้ำของ ในเขต อ.ปางมะผ้า และไปสิ้นสุดที่ลำน้ำปายในพื้นที่ของที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บ้านปางหมู อ.เมือง แม่ฮ่องสอน ในระหว่างการล่องแก่งท่านจะได้พบกับความสนุกตื่นเต้น การตั้งแค้มป์ในป่า การแช่โคลนจากบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ เพื่อผิวพรรณเปล่งปลั่ง กิจกรรมการล่องแก่ง จะมีในช่วงเดือน ต้นเดือนมิถุนายนและไปสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ของปีต่อไป ในช่วงถดูแล้งน้ำน้อยจะไม่สามารถล่องแก่งได้ ก่อนการล่องแพท่านจะได้รับการฝึกการพายเรือ และการแนะนำ วิธีการปฏิบัติในการพายแพยางอย่างละเอียดจากผู้คัดท้ายเรือ หรือที่เรียกว่า กัปตัน การล่องแพควรจะนัดแนะกับเพื่อนเพราะแพยางลำหนึ่งต้องมีผู้ร่วมพายอย่างน้อย 4 คน
เขียนโดย TunGMayZ
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคปัจจุบัน
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคปัจจุบัน
1.ปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา สร้างโดยพระราชาธิราชพ.ศ.1690 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดเป็นสถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินศิลาแลงและมีช่างแกะหินเป็นภาพพุทธประวัติบ้าง ภาพสงครามบ้าง
2.ทัชมาฮาล ในประเทศอินเดีย เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพระเจ้าซาห์เยฮัน แห่งเมืองอัคระ สร้างเป็นสุสานฝังศพของมเหสีที่พระองค์รักมากที่สุด ทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 23 ปี
3.พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สร้างนานถึง 30 ปี ห้องทุกห้องตกแต่งประดับประดาหรูหราโอ่อ่ามาก แต่ประหลาดมากคือไม่มีห้องน้ำ
4.ตึกเอ็มไพร์สเตต เกาะแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกาเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีไม่มีสนิม คงทนถาวรนาน 6,000 ปีไม่มีถล่ม
5.เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ เขื่อนกั้นแม่น้ำโคโลราโดอยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้อยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้
6.สะพานโกลเดนเกต ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เฉพาะช่วงตอนกลางยาวถึง 4,200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต ความยาวทั้งหมดของสะพานเกือบ 7 กิโลเมตร สร้างเมื่อปี 2476 เสร็จปี 2480 เวลากลางคืนเปิดไฟที่สะพานจะสวยมาก
7.เรือโดยสารควีนแมร์รี่ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาใหญ่โตที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อรับผู้โดยสารข้ามมหาสมุทร เรือมีน้ำหนัก 80,773 ตัน ยาว 1,004 ฟุต สูง 180 ฟุต ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า โรงพยาบาล ฯลฯ แต่ตอนนี้เรือไม่ได้แล่นรับผู้โดยสารแล้ว เพราะมีเศรษฐีอเมริกันซื้อไปสร้างเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย
สำหรับสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด สมัยกลาง (ศตวรรษที่ 1-14) ได้แก่ 1.สนามกีฬากรุงโรม อิตาลี 2.หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย อียิปต์ 3.กำแพงเมืองจีน 4.กองหินสโตนเฮนช์ อังกฤษ 5.หอเอนปิซ่า อิตาลี 6.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนากิง จีน และ 7.โบสถ์เซนต์โซเฟีย ตุรกีนอกจากนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ในยุคโบราณอีกด้วย ได้แก่ 1.เทวรูปเทพเจ้าเซอุส 2.มหาวิหารเดียนา 3.สวนลอยบาบิโลน 4.หอประภาคารฟาโรส 5.เทวรูปโคโลสซูส 6.สุสานมุสโซเลียม 7.พีระมิดแห่งอียิปต์
เขียนโดย TunGMayZ
1.ปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา สร้างโดยพระราชาธิราชพ.ศ.1690 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดเป็นสถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินศิลาแลงและมีช่างแกะหินเป็นภาพพุทธประวัติบ้าง ภาพสงครามบ้าง
2.ทัชมาฮาล ในประเทศอินเดีย เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพระเจ้าซาห์เยฮัน แห่งเมืองอัคระ สร้างเป็นสุสานฝังศพของมเหสีที่พระองค์รักมากที่สุด ทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 23 ปี
3.พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สร้างนานถึง 30 ปี ห้องทุกห้องตกแต่งประดับประดาหรูหราโอ่อ่ามาก แต่ประหลาดมากคือไม่มีห้องน้ำ
4.ตึกเอ็มไพร์สเตต เกาะแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกาเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีไม่มีสนิม คงทนถาวรนาน 6,000 ปีไม่มีถล่ม
5.เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ เขื่อนกั้นแม่น้ำโคโลราโดอยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้อยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้
6.สะพานโกลเดนเกต ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เฉพาะช่วงตอนกลางยาวถึง 4,200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต ความยาวทั้งหมดของสะพานเกือบ 7 กิโลเมตร สร้างเมื่อปี 2476 เสร็จปี 2480 เวลากลางคืนเปิดไฟที่สะพานจะสวยมาก
7.เรือโดยสารควีนแมร์รี่ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาใหญ่โตที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อรับผู้โดยสารข้ามมหาสมุทร เรือมีน้ำหนัก 80,773 ตัน ยาว 1,004 ฟุต สูง 180 ฟุต ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า โรงพยาบาล ฯลฯ แต่ตอนนี้เรือไม่ได้แล่นรับผู้โดยสารแล้ว เพราะมีเศรษฐีอเมริกันซื้อไปสร้างเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย
สำหรับสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด สมัยกลาง (ศตวรรษที่ 1-14) ได้แก่ 1.สนามกีฬากรุงโรม อิตาลี 2.หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย อียิปต์ 3.กำแพงเมืองจีน 4.กองหินสโตนเฮนช์ อังกฤษ 5.หอเอนปิซ่า อิตาลี 6.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนากิง จีน และ 7.โบสถ์เซนต์โซเฟีย ตุรกีนอกจากนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ในยุคโบราณอีกด้วย ได้แก่ 1.เทวรูปเทพเจ้าเซอุส 2.มหาวิหารเดียนา 3.สวนลอยบาบิโลน 4.หอประภาคารฟาโรส 5.เทวรูปโคโลสซูส 6.สุสานมุสโซเลียม 7.พีระมิดแห่งอียิปต์
เขียนโดย TunGMayZ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)